คอยพบกับความท้าทาย ที่แม้แต่เครื่องเล่นใน Universal ยังสู้ไม่ได้
จะไปเก็บภาพกับกล้องวีดีโอ กันน้ำ Gopro มาให้ดู (คราวที่แล้วพลาดไป)
จะไปเก็บภาพกับกล้องวีดีโอ กันน้ำ Gopro มาให้ดู (คราวที่แล้วพลาดไป)
Package ล่องแก่ง ลำน้ำเข็ก 750 บาท/ท่าน
มีรถรับ-ส่ง ถึงสนามบิน พิษณุโลก
ติดต่อ คุณเปี๊ยกน้ำเข็ก โทร 0845737733 หรือ คุณอำนาจ โทร 0875711766
ล่องแก่ง ลำน้ำเข็ก
ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำที่กำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอำเภอ เขาค้อ แล้วไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกศรีดิษฐ์ น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของพิษณุโลก น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง และน้ำตกวังนกแอ่น แล้วไหลผ่านอำเภอวังทอง ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นแม่น้ำวังทอง ไปรวมกับแม่น้ำน่านที่อำเภอบางกระทุ่ม เป็นลำน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก ในช่วงหน้าฝน น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และในช่วงหน้าแล้งจะเป็นสีเขียวใส ลำน้ำเข็กจะไหลคดเคี้ยวไปตามซอกเขาใหญ่น้อยตั้งแต่ เทือกเขาเพชรบูรณ์ จนผ่านเข้าสู่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจะมีเกาะแก่งมากมาย เช่น แก่งวังน้ำเย็น ในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ในเขตพื่นที่หน่วยหนองแม่นา และไหลเคียงคู่กับทางหมายเลข 12 ตามลำน้ำจะมีเกาะแก่งมากมาย ความรุนแรงของกระแสน้ำจะขึ้นอยู่กับระดับน้ำ ถ้าเป็นช่วงหน้าผนตกชุก ความรุนแรงของกระแสน้ำจะมากตามมาด้วย
ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำที่สามารถนำเรือยางมาใช้ล่องแก่งได้อย่างสนุกสนาน เร้าใจตลอดเส้นทาง คือ ตั้งแต่บ้านปากยาง ตำบลทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอวังทอง ลงไปจนถึง น้ำตกแก่งซอง รวมระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาในการล่องแก่งไม่เกิน 3 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับน้ำจะมากหรือน้อยซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่นานเกินไป ตั้งแต่จุดเริ่มต้นล่องแก่ง จะพบกับแก่งต่าง ๆ ที่มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับ 1 – 2 แล้วค่อย ๆ รุนแรงถึงระดับ 4 – 5 ในช่วงท้าย ๆ ทำให้มีเวลาซักซ้อมฝีพายก่อน และบางแก่งจะมีความยาวของแก่งต่อเนื่องกันเป็นระยะหลายร้อยเมตร การเดินทางมาล่องแก่งนี้มีความสำดวก เพราะว่าลำน้ำจะอยู่ใกล้ถนน คือ ลงจากรถยนต์ก็สามารถขึ้นแพยางได้เลย แล้วเมื่อถึงจุดขึ้นจากแพยางก็สามารถขึ้นรถต่อได้เช่นกัน ไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนสถานที่อื่น ๆ
เส้นทางการล่องแก่ง มีระยะทาง 8 กิโลเมตร ผ่านแก่งต่าง ๆ 8 แก่ง
แก่งท่าข้าม มีความยากในระดับ 1-2 เพราะน้ำจะนิ่งแต่ ไม่นานนักจะได้พบกับ
แก่งไทร ซึ่งจัดระดับความยากไว้ที่ 3-4 จากนั้นจะเป็น แก่งมรดกป่า แก่งนี้ฝีพายทางด้านขวาจะต้องทำงานหนัก เพราะเมื่อผ่านแก่งจะต้องหักเลี้ยวซ้ายทันที ตามกระแสน้ำที่คดเคี้ยว แก่งนี้ถือว่าสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้ไม่เบา
แก่งปากยาง มีระดับความยาก 2-3 และก่อนจะหมดแก่งปากยาง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับน้ำตกขนาดเล็ก ที่เกิดจากการลดระดับชั้นของหินขวางลำน้ำอยู่ มีความสูงประมาณ 1 เมตร และแก่งนี้ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องยึดตัวเรือให้แน่น ไม่เช่นนั้นอาจจะตกเรือได้ แก่งรัชมังคลา เป็นแก่งขนาดใหญ่ กระแสน้ำรุนแรงในระดับความยากที่ 3-4 มียอดคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
แก่งซาง และ แก่งนางคอย จะมีระดับความยากถึงระดับ 5 มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ถือว่าเป็นจุดอันตราย และจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ ยืนรออยู่บนฝั่ง คอยให้การช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอันตราย ซึ่งหากตกเรือแล้วขึ้นไม่ได้ นายท้ายจะไม่ให้เกาะที่กาบเรือ เพราะจะเกิดอันตราย จากการที่ถูกเรือลากไปกระแทกหินในแก่ง และจะได้รับบาดเจ็บได้ง่าย ควรจะรอให้เจ้าหน้าที่ริมฝั่งมาช่วยเหลือ แก่งยาวเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องลำน้ำเข็ก และถือว่ายากที่สุด เพราะแก่งนี้มีระยะทางถึง 100 เมตร ที่ระดับน้ำลดหลั่นกันหลายชั้น มีเกลียวคลื่นที่ดุดัน สร้างความตื่นเต้น หวาดเสียว ทั้งสนุกเร้าใจอย่างยิ่ง
การเดินทางไปล่องลำน้ำเข็ก
เดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางที่มุ่งสู่จังหวัดพิษณุโลก แล้วแยกซ้ายเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ผ่านอำเภอวังทอง จะมีรีสอร์ทที่บริการล่องแก่งเป็นจำนวนมาก สามารถติดต่อไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทางได้
ระดับความยากง่ายของการล่องแก่ง
ระดับ 1 ง่ายมาก มีแก่งเล็กน้อย น้ำจะไหลไปเรื่อยๆ ไม่อันตราย
ระดับ 2 ธรรมดา น้ำไหลแรงขึ้น เริ่มมีแก่งบ้าง
ระดับ 3 ปานกลาง มีแก่งที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น
ระดับ 4 ยาก มีแก่งมาก หรือน้ำอาจจะแรง และมีโขดหินที่ขวางลำน้ำ
ระดับ 5 อันตรายมาก ไม่เหมาะกับการล่องแก่ง อาจเกิดอุบัติเหตุได้
ข้อควรระวัง
ถ้าหากพลัดตกจากเรือ ต้องพยายามลอยตัวให้อยู่เหนือน้ำ ในลักษณะนอนหงาย ยกขาทั้งสองขึ้นระดับผิวน้ำ เสื้อชูชีพจะช่วยพยุงตัวให้ลอย พยายามให้ขาไปข้างหน้าขณะที่ไหลไปตามกระแสน้ำ ค่อยๆ แตะขาเพื่อชะลอความเร็ว และป้องกันการกระแทกโขดหิน อย่าตกใจกลัว เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เสื้อชูชีพ หมวกกันน็อก ต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ก่อนลงล่องแก่ง เจ้าหน้าที่จะสาธิตการช่วยเหลือทุกขั้นตอน ควรทำความเข้าใจก่อนที่จะออกล่องแก่ง
ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำที่กำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอำเภอ เขาค้อ แล้วไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกศรีดิษฐ์ น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของพิษณุโลก น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง และน้ำตกวังนกแอ่น แล้วไหลผ่านอำเภอวังทอง ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นแม่น้ำวังทอง ไปรวมกับแม่น้ำน่านที่อำเภอบางกระทุ่ม เป็นลำน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก ในช่วงหน้าฝน น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และในช่วงหน้าแล้งจะเป็นสีเขียวใส ลำน้ำเข็กจะไหลคดเคี้ยวไปตามซอกเขาใหญ่น้อยตั้งแต่ เทือกเขาเพชรบูรณ์ จนผ่านเข้าสู่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงจะมีเกาะแก่งมากมาย เช่น แก่งวังน้ำเย็น ในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ในเขตพื่นที่หน่วยหนองแม่นา และไหลเคียงคู่กับทางหมายเลข 12 ตามลำน้ำจะมีเกาะแก่งมากมาย ความรุนแรงของกระแสน้ำจะขึ้นอยู่กับระดับน้ำ ถ้าเป็นช่วงหน้าผนตกชุก ความรุนแรงของกระแสน้ำจะมากตามมาด้วย
ลำน้ำเข็ก เป็นลำน้ำที่สามารถนำเรือยางมาใช้ล่องแก่งได้อย่างสนุกสนาน เร้าใจตลอดเส้นทาง คือ ตั้งแต่บ้านปากยาง ตำบลทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอวังทอง ลงไปจนถึง น้ำตกแก่งซอง รวมระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาในการล่องแก่งไม่เกิน 3 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับน้ำจะมากหรือน้อยซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่นานเกินไป ตั้งแต่จุดเริ่มต้นล่องแก่ง จะพบกับแก่งต่าง ๆ ที่มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับ 1 – 2 แล้วค่อย ๆ รุนแรงถึงระดับ 4 – 5 ในช่วงท้าย ๆ ทำให้มีเวลาซักซ้อมฝีพายก่อน และบางแก่งจะมีความยาวของแก่งต่อเนื่องกันเป็นระยะหลายร้อยเมตร การเดินทางมาล่องแก่งนี้มีความสำดวก เพราะว่าลำน้ำจะอยู่ใกล้ถนน คือ ลงจากรถยนต์ก็สามารถขึ้นแพยางได้เลย แล้วเมื่อถึงจุดขึ้นจากแพยางก็สามารถขึ้นรถต่อได้เช่นกัน ไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนสถานที่อื่น ๆ
เส้นทางการล่องแก่ง มีระยะทาง 8 กิโลเมตร ผ่านแก่งต่าง ๆ 8 แก่ง
แก่งท่าข้าม มีความยากในระดับ 1-2 เพราะน้ำจะนิ่งแต่ ไม่นานนักจะได้พบกับ
แก่งไทร ซึ่งจัดระดับความยากไว้ที่ 3-4 จากนั้นจะเป็น แก่งมรดกป่า แก่งนี้ฝีพายทางด้านขวาจะต้องทำงานหนัก เพราะเมื่อผ่านแก่งจะต้องหักเลี้ยวซ้ายทันที ตามกระแสน้ำที่คดเคี้ยว แก่งนี้ถือว่าสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้ไม่เบา
แก่งปากยาง มีระดับความยาก 2-3 และก่อนจะหมดแก่งปากยาง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับน้ำตกขนาดเล็ก ที่เกิดจากการลดระดับชั้นของหินขวางลำน้ำอยู่ มีความสูงประมาณ 1 เมตร และแก่งนี้ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องยึดตัวเรือให้แน่น ไม่เช่นนั้นอาจจะตกเรือได้ แก่งรัชมังคลา เป็นแก่งขนาดใหญ่ กระแสน้ำรุนแรงในระดับความยากที่ 3-4 มียอดคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
แก่งซาง และ แก่งนางคอย จะมีระดับความยากถึงระดับ 5 มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ถือว่าเป็นจุดอันตราย และจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่ ยืนรออยู่บนฝั่ง คอยให้การช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอันตราย ซึ่งหากตกเรือแล้วขึ้นไม่ได้ นายท้ายจะไม่ให้เกาะที่กาบเรือ เพราะจะเกิดอันตราย จากการที่ถูกเรือลากไปกระแทกหินในแก่ง และจะได้รับบาดเจ็บได้ง่าย ควรจะรอให้เจ้าหน้าที่ริมฝั่งมาช่วยเหลือ แก่งยาวเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องลำน้ำเข็ก และถือว่ายากที่สุด เพราะแก่งนี้มีระยะทางถึง 100 เมตร ที่ระดับน้ำลดหลั่นกันหลายชั้น มีเกลียวคลื่นที่ดุดัน สร้างความตื่นเต้น หวาดเสียว ทั้งสนุกเร้าใจอย่างยิ่ง
การเดินทางไปล่องลำน้ำเข็ก
เดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางที่มุ่งสู่จังหวัดพิษณุโลก แล้วแยกซ้ายเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ผ่านอำเภอวังทอง จะมีรีสอร์ทที่บริการล่องแก่งเป็นจำนวนมาก สามารถติดต่อไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทางได้
ระดับความยากง่ายของการล่องแก่ง
ระดับ 1 ง่ายมาก มีแก่งเล็กน้อย น้ำจะไหลไปเรื่อยๆ ไม่อันตราย
ระดับ 2 ธรรมดา น้ำไหลแรงขึ้น เริ่มมีแก่งบ้าง
ระดับ 3 ปานกลาง มีแก่งที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น
ระดับ 4 ยาก มีแก่งมาก หรือน้ำอาจจะแรง และมีโขดหินที่ขวางลำน้ำ
ระดับ 5 อันตรายมาก ไม่เหมาะกับการล่องแก่ง อาจเกิดอุบัติเหตุได้
ข้อควรระวัง
ถ้าหากพลัดตกจากเรือ ต้องพยายามลอยตัวให้อยู่เหนือน้ำ ในลักษณะนอนหงาย ยกขาทั้งสองขึ้นระดับผิวน้ำ เสื้อชูชีพจะช่วยพยุงตัวให้ลอย พยายามให้ขาไปข้างหน้าขณะที่ไหลไปตามกระแสน้ำ ค่อยๆ แตะขาเพื่อชะลอความเร็ว และป้องกันการกระแทกโขดหิน อย่าตกใจกลัว เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่าลืมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เสื้อชูชีพ หมวกกันน็อก ต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ก่อนลงล่องแก่ง เจ้าหน้าที่จะสาธิตการช่วยเหลือทุกขั้นตอน ควรทำความเข้าใจก่อนที่จะออกล่องแก่ง